ศูนย์ฝึกศิลปาชีพบางไทรคืออะไร มีหลักสูตรอะไรบ้าง

เวลาที่มีคนเอ่ยถึงศูนย์ศิลปาชีพ บางไทร เชื่อว่าทุกคนน่าจะมีความคุ้นหูกันเป็นอย่างดี แต่หากถามอย่างลึกซึ้งแล้วก็คงมีคนที่ตั้งคำถามในข้อสงสัยไม่น้อยว่าจริงๆ แล้วศูนย์ศิลปาชีพ บางไทร แห่งนี้มีความสำคัญอย่างไรบ้าง มีที่มาอย่างไร ทำไมถึงกลายเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ลองมาค่อยๆ หาคำตอบไปทีละข้อก็น่าจะทำให้เข้าใจในสถานที่แห่งนี้มากขึ้น

ศูนย์ฝึกศิลปาชีพ บางไทร คืออะไร

ศูนย์ฝึกศิลปาชีพ บางไทร เป็นศูนย์ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ พระบรมราชินินาถ มีความประสงค์เพื่อต้องการให้เป็นศูนย์สำหรับการฝึกอาชีพทางด้านที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของศิลปวัฒนธรรมให้กับเหล่าเกษตรกร รวมถึงประชาชนทั่วไปที่ให้ความสนใจในด้านนี้ ที่สำคัญทุกวันนี้ ศูนย์ฝึกศิลปาชีพ บางไทร ยังจัดได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความน่าสนใจอีกแห่งหนึ่งของประเทศไทยอีกด้วย

ประวัติความเป็นมาของ ศูนย์ฝึกศิลปาชีพ บางไทร

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ พระบรมราชินีนาถ ได้โปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้งศูนย์แห่งนี้ขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2523 บริเวณริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ต. ช้างใหญ่ อ.บางไทร จ. พระนครศรีอยุธยา บริเวณเขตที่เป็นที่ดินปฏิรูปเพื่อการเกษตรกรรมกว่า 1 พันไร่ เพื่อให้เป็นสถานที่สำหรับการฝึกปรือฝีมือทางด้านศิลปะไทยโบราณให้กับเหล่าบรรดาเกษตรกรที่มีความสนใจในการหาอาชีพเพื่อไปสร้างรายได้พิเศษให้กับตนเองในช่วงเวลาที่ว่างจากการทำงานเกษตรทั้งหลายแล้ว ซึ่งก็จะมีเหล่าวิทยากรผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในงานศิลปะด้านต่างๆ มาค่อยเป็นผู้อบรมวิชาเหล่านี้ให้กับเกษตรกร พอเหล่าเกษตรกรสามารถผลิตงานได้ตามความต้องการแล้วทางศูนย์ฯ เองก็จะรับซื้อผลงานเหล่านี้ไปขายให้กับนักท่องเที่ยวต่อไป เป็นการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรทางหนึ่งด้วย

หลักสูตรที่ทางศูนย์ฝึกศิลปาชีพ บางไทร เปิดสอน

ปัจจุบันหลักสูตรที่ทาง ศูนย์ฝึกศิลปาชีพ บางไทร ได้ทำการเปิดสอนให้ความรู้กับทั้งเกษตรกรและประชาชนทั่วไปที่มีความสนใจมีทั้งหมด 8 หลักสูตร หลักๆ ประกอบไปด้วย

  • หลักสูตรการประดิษฐ์ผลิตภัณฑ์จากเส้นใยพืช
  • หลักสูตรการแกะสลัก
  • หลักสูตรการจักสาร
  • หลักสูตรการทำตุ๊กตา
  • หลักสูตรการทำดอกไม้ประดิษฐ์
  • หลักสูตรการทำเครื่องเรือน
  • หลักสูตรการทอผ้า ผลิตภัณฑ์จากผ้า การย้อมสี
  • หลักสูตรช่างเชื่อมและเครื่องเคลือบดินเผา

หากใครได้มีโอกาสไปเที่ยวชมใน ศูนย์ฝึกศิลปาชีพ บางไทร จะเห็นได้เลยว่าผลิตภัณฑ์ต่างๆ เหล่านี้จะถูกวางขายเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ซื้อไปทำประโยชน์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นของที่ระลึก หรือเพื่อใช้ประโยชน์จากตัวผลิตภัณฑ์เองก็ตามที ซึ่งนี่ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่จะช่วยเหลือเกษตรกรรวมถึงประชาชนทั้งหลายให้มีรายได้จากากรทำผลิตภัณฑ์เหล่านี้ออกมาวางจำหน่าย